THE BEST SIDE OF จดทะเบียนสมรสเท่าเทียม

The best Side of จดทะเบียนสมรสเท่าเทียม

The best Side of จดทะเบียนสมรสเท่าเทียม

Blog Article

ร่าง พ.ร.บ. ซึ่ง สรรเพชญ บุญญามณี พรรคประชาธิปัตย์ กับคณะเป็นผู้เสนอ 

ร.บ. ฉบับนี้ทำให้คู่รักเพศเดียวกันกลายเป็นพลเมืองชั้นสอง อีกทั้งสิทธิที่ได้รับจากร่าง พ.ร.บ.ก็น้อยมากเมื่อเทียบกับกฎหมายสมรสแบบชาย-หญิง ตัวอย่างเช่น 

อีกทั้งยังสอดคล้องกับเป้าหมายแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติด้วย ส่วนสิทธิอื่น ๆ ที่อาจจะยังไม่มีเท่ากับการจดทะเบียนคู่สมรสชาย-หญิง เมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้แล้ว ก็จะมีการประเมินผลเพื่อพัฒนาให้มีความเหมาะสมกับบริบทต่าง ๆ ต่อไป รวมถึงการปรับปรุงกฎหมายฉบับอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย

ในการอภิปรายร่าง พ.ร.บ. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ได้อภิปรายกันอย่างกว้างขวางถึงความจำเป็นในการแก้ไขกฎหมายว่าด้วยการสมรส เช่น สิทธิในการจัดการทรัพย์สินของคู่รักผู้มีความหลากหลายทางเพศ สวัสดิการสำหรับคู่สมรส สิทธิการตัดสินใจในการรักษาพยาบาล เป็นต้น

นอกจาก พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศสามารถสมรสกันได้ตามกฎหมายแล้ว ยังมาพร้อมสิทธิในการสมรสที่ครอบคลุมทุกมิติ ดังนี้

กำหนดให้สิทธิรับค่าเลี้ยงชีพในกรณีหย่าหมดไป ถ้าฝ่ายที่รับค่าเลี้ยงชีพสมรสใหม่ หรือจดทะเบียนคู่ชีวิต

กำหนดบทบัญญัติเกี่ยวกับทรัพย์สินระหว่างคู่ชีวิตโดยแบ่งเป็นสินส่วนตัวและสินทรัพย์ร่วมกัน

อีกความแตกต่างของร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมของภาคประชาชน คือ การแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งฯ (ป.พ.พ.) ที่เกี่ยวกับบิดา มารดา และบุตร ที่ร่างของภาคประชาชนเสนอว่า ให้เปลี่ยนถ้อยคำที่ครอบคลุมผู้มีความหลากหลายทางเพศ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายสมรสเท่าเทียม ขณะที่ร่างกฎหมายของรัฐบาลและพรรคก้าวไกล แก้ไขถ้อยคำในกฎหมาย ป.พ.พ. เพียงบางส่วน

เหตุหย่าประการหนึ่งที่ให้สิทธิแก่คู่สมรสที่จะใช้สิทธิหย่าหรือไม่ก็ได้ นั่นคือ เมื่อเกิดสถานการณ์ที่อีกฝ่าย ‘ไม่อาจร่วมประเวณีได้ตลอดกาล’ ดังนั้นเมื่อกฎหมายฉบับนี้เปิดโอกาสให้เพศใดก็สามารถสมรสได้ จึงเพิ่มเติมถ้อยคำให้เป็นเงื่อนไขที่ชัดเจนขึ้นคือ ‘ไม่อาจกระทำหรือยอมรับการกระทำเพื่อสนองความใคร่ของอีกฝ่ายได้ตลอดกาล’ เป็นเหตุฟ้องหย่าเพิ่มเติมเข้าไป เพื่อให้เกิดความชัดเจนและป้องกันการตีความคำว่า ‘ไม่อาจร่วมประเวณี’ ที่อาจถูกตีความว่าเป็นเรื่องกิจกรรมทางเพศระหว่างชายและหญิงที่มีการสอดใส่เท่านั้น

ร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมที่มีการพิจารณานี้ มีการใช้คำว่า “คู่สมรส” แทนคำว่า “คู่สามีและภริยา” จดทะเบียนสมรสเท่าเทียม ในกฎหมายเดิม ในหลายมาตรา ซึ่ง พ.

เมื่อใดที่การเมืองกับตำรวจตัดไม่ขาด เมื่อนั้นแรงจูงใจในการพัฒนาองค์กรอาจไม่มากเท่าการวิ่งเต้นตำแหน่ง

พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี คือการแต่งกายให้ตรงเพศสภาพ

แก้ไขคำว่า ชาย-หญิง-สามี-ภริยา เป็นคำว่า บุคคล-ผู้หมั้น-ผู้รับหมั้น และคู่สมรส

ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวยังระบุเพิ่มเติมว่า หากมีการหมั้นแล้วฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดสัญญาหมั้น อีกฝ่ายหนึ่งมีสิทธิเรียกร้องให้ผู้ทำผิดสัญญาหมั้นรับผิดชอบค่าทดแทน 

Report this page